Verb to be

มาเรียนการใช้ Verb to be อย่างละเอียดกันนะคะ

 หน้าตาของ Verb to be หลายคนอาจยังไม่รู้จักมักคุ้นกันเท่าไหร่ และสงสัยว่าอะไรคือ Verb to be และ Verb to be    มีกี่ตัว นี่คือคำตอบสุดท้ายค่ะ

Verb to be มีทั้งหมด 8 รูป คือ is, am, are, was, were, be, been, being

ซึ่งแยกตามกริยา 3 ช่อง ได้ดังนี้

ช่องที่ 1  ได้แก่   be, is, am, are

ช่องที่ 2  ได้แก่   was, were     

ช่องที่ 3  ได้แก่    been


 หากแยก  Verb to be  ตามหลักการใช้ แยกได้เป็น 5 ข้อ ดังนี้


1. be

2. is, am, are
3. was, were
4. been
5. being


หลักการใช้ Verb to be 

ต้องใช้ให้ถูกต้องตามพจน์ หรือประธาน ( Subject)  และกาล (Tense) ดังตาราง

Subject
(ประธาน)
Present
(กาลปัจจุบัน)
 Past
(อดีต)

I

am

was

You




are
were

We

They

Plural

He



is



was

She

It

Singular


*** Plural หมายถึง พหูพจน์ หรือมากกว่าหนึ่ง เช่น
       Jane and Joe, policemen, pencils, bananas, Thai people, these          
       books, those students เป็นต้น

*** Singular หมายถึง เอกพจน์ หรือ หนึ่งจำนวน เช่น
       Jane, my friend, an apple, a cat, your sister, a car, my house,  
       this pen, that man เป็นต้น

เพิ่มเติม  this, that เป็นเอกพจน์ นามที่ตามหลังก็ต้องเป็นเอกพจน์ 
               these, those เป็นพหูพจน์ นามที่ตามหลังก็ต้องเป็นพหูพจน์


  การเขียน Verb to be รูปย่อ

รูปเต็ม
รูปย่อ
Examples

I am ...

I’m ...

 I’m ten years old.
  
  You are ...
  
   You’re ...

 You’re lovely.

 We are ...

  We’re ...

 We’re nurses.
   
   They are ...
  
    They’re ...

 They’re my sisters.

He is ...

He’s ...

 He’s a policeman.

She is ...

  She’s ...

 She’s friendly.
        
It is ...

It’s ...

 It’s an apple.


หน้าที่ของ Verb to be

1.      เป็นกริยาสำคัญในประโยค  มีความหมายว่า  "เป็น  อยู่  คือ"

ตัวอย่างเช่น

I am a nurse. ฉันเป็นนางพยาบาล

That is my new car. นั่นคือรถคันใหม่ของผม

They are at home. พวกเขาอยู่ที่บ้าน


Your books are on the table. หนังสือของคุณอยู่บนโต๊ะ


Jane was at the party last night. เจนอยู่ที่งานเลี้ยงเมื่อคืนนี้      
 ***(last night เป็นอดีตจึงใช้ was)
               
2.      ใช้วางข้างหน้า กลุ่มคำคุณศัพท์  (  adjective ) 
         ในที่นี้ verb to be ไม่ได้มีความหมายว่า "เป็น  อยู่  คือ
         แต่ใช้วางหน้าคำคุณศัพท์ (adjective) 
         เพื่อทำให้ประโยคสมบูรณ์ 

ตัวอย่างเช่น

 Jane is beautiful. เจนสวย

My friends are tall. เพื่อน(หลายคน)ของฉันสูง

I am busy. ฉันยุ่ง หรือ ฉันไม่ว่าง
             
3.      ใช้เป็นกริยาช่วยในโครงสร้างของประโยค Continuous 
         (ประโยคที่มี กริยาเติม ing ) ซึ่งหมายถึงประธาน "กำลัง
         กระทำกริยานั้นในขณะที่พูด 
       
ตัวอย่างเช่น

Sam is sleeping at the moment. แซมกำลังนอน

We are learning English. พวกเรากำลังเรียนภาษาอังกฤษ

They are playing football. พวกเขากำลังเล่นฟุตบอล
             
4.      ใช้เป็นกริยาช่วยในโครงสร้างของประโยค Passive  Voice
         (Verb to be + กริยาช่องที่3) ประธานเป็นผู้ "ถูกกระทำ


ตัวอย่างเช่น


Dara was punished yesterday. เมื่อวานดาราถูกทำโทษ

The letter was written by Joe. จดหมายถูกเขียนโดยโจ
 (หรือแปลว่า โจเป็นคนเขียนจดหมาย)

Those apples were eaten. แอปเปิ้ลเหล่านั้นถูกกิน


คำอธิบายหลักการใช้ Verb to be ตามหลักไวยากรณ์

1. is, am, are  (V1) ใช้กล่าวถึงสิ่งที่เป็น อยู่  "ปัจจุบัน" ตัวอย่างเช่น
     
 I am a student. ฉันเป็นนักเรียน   
 ( หมายความว่า  ปัจจุบันนี้ยังเป็นนักเรียนอยู่ )

My sisters are nurses. พี่สาวของฉันเป็นนางพยาบาล
หมายความว่า  ปัจจุบันนี้พี่สาวเป็นนางพยาบาล )

Jane is very busy at the moment. ตอนนี้เจนยุ่งมาก
หมายความว่า  ขณะนี้เจนยุ่ง หรือไม่ว่าง )
      
2.  was, were (V2) ใช้กล่าวถึงสิ่งที่เป็น อยู่ ใน "อดีต" 

ตัวอย่างเช่น
I was at the party last night. เมื่อคืนฉันอยู่ที่งานเลี้ยง

My friends were very angry yesterday. เมื่อวานเพื่อนของฉันโกรธมาก

Jane was a unwell last week.  สัปดาห์ที่แล้วเจนไม่สบาย

3. be  (V1) เป็นกริยาช่องที่หนึ่งเหมือนกันกับ is, am, are แต่ใช้ต่างดังนี้
     
      3.1 ใช้เมื่อตามหลัง to  ตัวอย่างเช่น 

             I would like to be a nurse in the future.

      3.2 ใช้เมื่อตามหลังกริยาช่วยต่อไปนี้

             can, could, will, shall, should, would, may, might, must 


ตัวอย่างเช่น


I shall be with you. ฉันจะอยู่กับคุณ

You must be joking! คุณต้องล้อเล่นแน่ๆ

She should be more careful. หล่อนต้องระวังมากกว่านี้


When we go to temple we should always be quiet. เมื่อเราไปวัด เราต้องไม่ส่งเสียงดัง     


      3.3 ใช้ในประโยคคำสั่ง หรือขอร้อง ตัวอย่างเช่น

Be quiet please. กรุณาเงียบหน่อยครับ

Be careful! ระวัง

4.  been (V3) เป็นกริยาช่องที่ 3 ตามหลัง verb to have ( has, have, had)  ในประโยค Perfect Tense  


ตัวอย่างเช่น


I have been in London for ten years.

David has been to Thailand for four months.

We had been to the beach for many times last year.



5. being เป็นกริยาเติม ing ของ verb to be 


      5.1  ใช้วางหน้า adjectives เพื่อต้องการสื่อว่า กำลังเป็นและรู้สึกอย่างไร ขณะนั้น ตัวอย่างเช่น



I am being lazy. ฉันรู้สึกขี้เกียจ

Johns is being stupid. จอห์นกำลังทำตัวงี่เง่า



       5.2 ใช้วางหน้า กริยาช่่องที่สาม เมื่อต้องการสื่อว่า ประธานกำลังถูกกระทำ หรือกำลังจะถูกกระทำในอนาคตอันใกล้  ตัวอย่างเช่น



The trees are being cut. ต้นไม้กำลังถูกตัด



The road is being repaired next week. ถนนจะถูกปรับปรุงใหม่สัปดาห์หน้า


                                      
การแต่งประโยค        


ประโยคบอกเล่า
(Positive   Forms)


ประโยคปฏิเสธ
(Negative Forms)


ประโยคคำถาม
(Questions)

I
am
wrong.
I
am
not
wrong.
Am
I
wrong?
He
is
teacher
He
is
not
a teacher.
Is
he
a teacher?
She
is
a nurse.
She
is
not
a nurse.
Is
she
a nurse?
It
is
a book.
It
is
not
a book.
Is
it
a book?
We
are
mechanics.
We
are
not
mechanics.
Are
we
mechanics?
You
are
pilots.
You
are
not
pilots.
Are
you
pilots?
They
are
policemen.
They
are
not
policemen.
Are
they
policemen?





No comments :